จุลศีล

ข้อมูลจาก พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด ๙๑ เล่ม ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

(พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน) และ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๔๖) (ปกสีแดง)

 

จุลศีล

 

เล่ม ๑๑ หน้า ๓๐๙-๓๑๑ (ปกสีน้ำเงิน) / หน้า ๒๖๓-๒๖๕ (ปกสีแดง)

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ภาค ๑

 

บางส่วนของ สามัญญผลสูตร 

 

จุลศีล

 

          (๑๐๓) มหาบพิตร อย่างไรภิกษุจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล

          ๑. ภิกษุในธรรมวินัยนี้

ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์

วางไม้ วางมีด มีความละอายมีความเอ็นดู

มีความกรุณาหวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

          ๒. เธอละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์

รับแต่ของที่เขาให้ ต้องการแต่ของที่เขาให้

ไม่ประพฤติตนเป็นขโมย เป็นผู้สะอาดอยู่

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

          ๓. เธอละกรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์

ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกล

เว้นขาดจากเมถุน อันเป็นเรื่องของชาวบ้าน

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

          ๔. เธอละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ

พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์มีถ้อยคำเป็นหลักฐาน

ควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

 

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค

เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๑๐ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

          ๕. เธอละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด

ฟังจากข้างนี้แล้วไม่ไปบอกข้างโน้น

เพื่อให้คนหมู่นี้แตกร้าวกัน

หรือฟังจากข้างโน้นแล้วไม่มาบอกข้างนี้

เพื่อให้คนหมู่โน้นแตกร้าวกัน

สมานคนที่แตกร้าวกันแล้วบ้าง

ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันแล้วบ้าง

ชอบคนผู้พร้อมเพรียงกัน ยินดีคนผู้พร้อมเพรียงกัน

เพลิดเพลินคนผู้พร้อมเพรียงกัน

กล่าวแต่คำที่ทำให้คนพร้อมเพรียงกัน

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

          ๖. เธอละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ

กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ เพราะหูชวนให้รัก จับใจ

เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

          ๗. เธอละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ

พูดถูกกาล พูดจริง พูดเป็นอรรถพูดเป็นธรรม

พูดเป็นวินัย พูดมีหลัก มีที่อ้าง มีที่สุด

ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันควร

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

          ๘. เธอเว้นขาดจากการพรากพืชคาม และภูตคาม.

          ๙. เธอฉันหนเดียว เว้นการฉันในราตรี

งดเว้นการฉันในเวลาวิกาล.

          ๑๐. เธอเว้นขาดจากการฟ้อนรำ ขับร้องประโคมดนตรี

และดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล.

          ๑๑. เธอเว้นขาดจากการทัดทรงประดับและตกแต่งร่างกาย

ด้วยดอกไม้ ของหอม และเครื่องประเทืองผิว

อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว.

          ๑๒. เธอเว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่.

          ๑๓.ธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.

 

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค

เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๑๑ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

          ๑๔. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ.

          ๑๕. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ.

          ๑๖. เธอเว้นขาดจากการรับสตรี และกุมารี.

          ๑๗. เธอเว้นขาดจากการรับทาสี และทาส.

          ๑๘. เธอเว้นขาดจากการรับแพะ และแกะ.

          ๑๙. เธอเว้นขาดจากการรับไก่ และสุกร.

          ๒๐. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.

          ๒๑. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นา และที่ดิน.

          ๒๒. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรม และการรับใช้.

          ๒๓. เธอเว้นขาดจากการซื้อ การขาย.

          ๒๔. เธอเว้นขาดจากการโกงด้วยตาชั่ง

การโกงด้วยของปลอมและการโกงด้วยเครื่องตวงวัด.

          ๒๕. เธอเว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวงและการตลบตะแลง.

          ๒๖. เธอเว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การปล้น  และกรรโชก

แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

 

จบจุลศีล 

 

http://www.tripitaka91.com/11-309-8.html


https://www.youtube.com/watch?v=-g4CTzFLF0g